ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สวัสดีค่ะ ท่านผู้สนใจในธรรมทุกท่าน
ชีวิต คือสภาพธรรมที่เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว เพราะเหตุว่า "อวิชชา" (ความไม่รู้) ปิดบังจึงทำให้เราไม่สามารถรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้....สภาพธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นแล้วดับ จึงไม่เที่ยง ภาษาบาลีเรียกว่า "อนิจจัง" ความไม่เที่ยงของสภาพธรรมทั้งหลาย เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์กายทุกข์ใจ.....สภาพธรรมทั้งหลายไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใด เพราะว่าไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล เรา เขา ภาษาบาลีเรียกว่า "อนัตตา"
ชีวิต ไม่เที่ยงเป็นเพียงชีวิตชั่วคราวและสั้นมาก เพราะเหตุว่ามีการเกิดดับสืบต่อเร็วมาก ด้วยเหตุว่าเราไม่รู้ตามความเป็นจริง คิดว่าชีวิตนี้ยืนยาวนาน จึงมีการติดข้องในสภาพธรรมทุกอย่าง ที่ปรากฏขณะนี้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายและทางใจ....มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ติดข้องไม่ได้คือ "นิพพาน" แต่ถ้ายังไม่ประจักษ์การเกิดดับของสภาพธรรม ตามความเป็นจริงของสิ่งที่ปรากฏขณะนี้ ก็ไม่สามารถที่จะรู้จักนิพพานได้เลย
เราเกิดมาก็เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย และนอกจากนั้นยังมีความติดข้อง (โลภะ) ตามมาด้วยทุกภพทุกชาติ เพราะความไม่รู้ (อวิชชา) จึงติดข้องต้องการ ยินดีพอใจใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ และยึดถือว่าสิ่งนั้น ๆ ยังคงมีอยู่ ซึ่งที่จริงดับไปนานแล้ว....ดังนั้นจึงต้องอบรมเจริญปัญญา เพื่อที่จะละความไม่รู้ (อวิชชา) ออกไปทีละเล็กทีละน้อยตามลำดับของปัญญาแต่ละขั้น เริ่มด้วยการฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนกว่าจะมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นเป็นปัญญาขั้นต้น
สำหรับบทความนี้ หากมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย และขออโหสิกรรมจากท่านผู้อ่าน ไว้ ณ ที่นี้ด้วย....ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ