หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กรรมและผลของกรรม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กรรมและผลของกรรม แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

กรรมและผลของกรรม







ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สวัสดีค่ะ ท่านผู้สนใจในพระธรรมทุกท่าน

ชีวิตของแต่ละคนในแต่ละวัน  ซึ่งอาจจะประสบกับความสุขบ้างและความทุกข์บ้าง  ซึ่งเกิดขึ้นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย......จึงควรที่จะทราบไว้ว่า  ต้องมีเหตุปัจจัยที่ได้กระทำมาแล้วในแต่อดีต  ไม่สามารถทราบได้ว่า....."กุศลกรรมและอกุศลกรรม" ที่ได้กระทำไว้แล้วนั้น  "ผลของกรรม" จะส่งผลในขณะใด เมื่อใด  เพราะเหตุว่าเมื่อมีเหตุปัจจัยที่ควรจะให้ผลเกิด ผลก็จะเกิดขึ้น  โดยที่ไม่มีผู้ใดบังคับหรือยับยั้งได้ตามต้องการ....แม้แต่บุคคลผู้ได้สะสมบุญกุศล  จนสามารถที่จะบรรลุพระธรรมเป็นพระอรหันต์  ก็ยังไม่สามารถที่จะหนีพ้นจาก "ผลของกรรม" ที่ได้กระทำไว้แล้วแต่ในอดีต

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า " ไม่ว่าในอากาศ  ไม่ว่าในกลางทะเล  ไม่ว่าจะเข้าไปสู่ระหว่างภูเขา  ย่อมไม่มีภูมิประเทศที่สัตว์สถิตอยู่แล้ว  จะพึงพ้นไปจากบาปกรรมได้ "

"กรรม"  เป็นนามธรรม  ได้แก่  "เจตนาเจตสิก"  ทำให้  "วิบากจิตและรูป" เกิดขึ้น (วิบากจิต ได้แก่  จิตเห็น, จิตได้ยิน, จิตรู้กลิ่น, จิตลิ้มรส, จิตรู้เย็น, จิตรู้ร้อน, จิตรู้อ่อน, จิตรู้แข็ง, จิตรู้ไหว, จิตรู้ตึง)......จิตเห็นสิ่งที่ไม่ดีทางตา เป็นอกุศลวิบาก...จิตได้ยินเสียงไม่เป็นที่น่าฟัง เป็นอกุศลวิบาก....จิตได้กลิ่นที่ไม่น่าปรารถนา เป็นอกุศลวิบาก....จิตลิ้มรสสิ่งที่ไม่ปรารถนา  เป็นอกุศลวิบาก.....จิตรู้กระทบสัมผัสทางกาย เย็นร้อน อ่อน แข็ง ไหว ตึง ไม่เป็นที่พอใจ เป็นอกุศลวิบาก....ในทำนองตรงข้าม....จิตเห็นสิ่งที่ดีทางตา  เป็นกุศลวิบาก....จิตได้ยินเสียงที่ดีทางหู  เป็นกุศลวิบาก....ทางทวารอื่น ๆ  ก็นัยเดียวกัน

โดยทั่ว ๆ ไปทุกท่านก็มักจะนึกถึง  หรือเห็นผลของกรรม (วิบาก) เฉพาะแต่ที่เป็น "รูป"......ซึ่งแท้ที่จริงแล้วผลของกรรมเป็นสภาพธรรมที่เป็น "นามธรรม"  คือ จิตและเจตสิก นั้นมีด้วย.....แต่ส่วนมากท่านจะนึกถึงในด้านวัตถุต่าง ๆ  นึกถึงรูปร่าง หน้าตา  ผิวพรรณและโภคทรัพย์เป็นผลของกุศลกรรม......ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมท่านก็จะนึกถึงความวิบัติของรูปร่าง หน้าตา  ผิวพรรณและโภคทรัพย์.....แต่ไม่ทราบตามความเป็นจริงของสภาพธรรมะ ซึ่งเป็นผลของกรรมว่าเป็น "นามธรรม" ด้วย คือ  "จิตและเจตสิกเป็นวิบากจิต"

สำหรับบทความนี้ เป็นเพียงแค่สังเขป....หากมีข้อความใดผิดพลาดประการใด  ผู้เขียนขอกราบขอขมาแด่พระรัตนตรัยและขออโหสิกรรมจากท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย....ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน