วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554
เจตสิกคืออะไร
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สวัสดีค่ะ ท่านผู้สนใจธรรมะทุกท่าน
วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง "นามธรรม" อีกครั้งหนึ่งนะคะ เพื่อความมั่นคงในความเข้าใจถูกต้องของสิ่งที่เคยได้ศึกษามาแล้ว ในบทความก่อน ๆ........"ธรรมะ" เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่มีจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นสิ่งที่เกิดกับเราอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ เพราะมีอวิชชา (ความไม่รู้) ปิดบังความจริงไว้ ดังนั้นจึงควรสะสมความรู้เพื่อละความไม่รู้ทีละเล็กทีละน้อย เพื่อเป็นปัญญาของตนเอง
สภาพธรรมะที่เป็นนามธรรมนี้ มีอยู่ ๒ อย่าง คือ จิตและเจตสิก วันนี้ก็จะขอนำเรื่อง "เจตสิก" มาเล่ากันอีกครั้ง เพื่อความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัญญาขั้นพื้นฐาน ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจในศึกษาระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ คำว่า "เจตสิก" นี้อาจจะเป็นคำใหม่ สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มฟังหรือเริ่มศึกษาพระธรรม
เจตสิก เป็นนามธรรม หมายถึงสภาพธรรมะที่เกิดกับจิต อยู่กับจิต ดับพร้อมกับจิต ไม่แยกจากจิตเลย
ส่วนจิตเป็นนามธรรม หมายถึงเป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งในลักษณะของสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
ทำไมจิตจึงมีหลายประเภท.....เพราะเหตุว่า มีเจตสิกหลายอย่างเกิดกับจิต จึงทำให้จิตแตกต่างกันหลายประเภท "จิต" มีจำนวนถึง ๘๙ ประเภทหรือดวง ถ้าแยกประเภทแบบพิศดารมีจำนวน ๑๒๑ ดวง...... "เจตสิก" มีทั้งหมด ๕๒ ดวง....ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จิตมีลักษณะต่าง ๆ ตามการปรุงแต่งของเจตสิกประเภทต่าง ๆ เช่น โลภเป็นเจตสิก โกรธเป็นเจตสิก ซึ่งเกิดกับจิต....จิตเป็นเพียงนามธรรมหรือสภาพรู้ธาตุรู้เท่านั้น จิตจะไม่โกรธ จิตจะไม่โลภ จิตจะไม่จำ จิตไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้นเลย....เช่น ขณะที่เห็นขณะนี้ จิตเห็นทำหน้าที่เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังปรากฏทางตาแล้วก็ดับ ที่เห็นเป็นคนนั้นคนนี้ไม่ใช่จิต แต่เป็น "สัญญาเจตสิก" เกิดกับจิต ทำหน้าที่จำสิ่งที่จิตเห็น.....จิตที่คิดเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ใช่จิตเห็น แต่ว่าแม้ไม่เห็น จิตก็สามารถคิดอะไรได้ เพราะเหตุว่า มีเจตสิกเป็นสภาพธรรมะที่ปรุงแต่งจิต
ดังนั้นจะเห็นว่า สภาวะธรรมใดก็ตาม เมื่อเกิดขึ้นต้องมีธรรมะอื่นเกิดร่วมด้วยเสมอ ปรุงแต่งจิต ทำให้จิตมีลักษณะแตกต่างกันมากมาย ทำให้จิตสามารถรู้ได้ละเอียดรู้แจ้งในอารมณ์ที่มาปรากฏกับจิต
สำหรับเรื่องจิตและเจตสิกก็ได้เขียนบรรยายมาเพื่อเป็นความรู้ขั้นพื้นฐานเท่านั้น อยากรู้มากกว่านี้ก็ไปค้นคว้าเพิ่มเติมได้จ๊ะ
หากข้อความใดผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอกราบขอขมาแด่พระรัตนตรัยและขออโหสิกรรมจากท่านผู้อ่านทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย.....ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่่ะ