หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร







ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สวัสดีค่ะ ท่านผู้สนใจในธรรมทุกท่าน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรมทั้งปวง พร้อมทั้งเหตุและผลของธรรมทั้งปวงพระองค์ทรงแสดงธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้ ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ ให้พุทธบริษัทให้รู้ตามพระองค์  ให้ทราบว่าสภาพธรรมทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่เรา.....สภาพธรรมทั้งปวงเป็น "ปรมัตถธรรม" คือเป็นสภาพธรรมที่มีลักษณะเฉพาะแต่ละอย่าง ไม่มีใครสามารถที่จะบังคับบัญชาหรือเปลี่ยนแปลงลักษณะของสภาพธรรมนั้น ๆ ได้ ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้  จะเรียกภาษาอะไร หรือไม่เรียกก็ตาม  สภาพธรรมนั้น ก็ไม่มีใครที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย....สภาพธรรมทั้งหลายเกิดขึ้น  เพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปตามเหตุปัจจัย

ความที่ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง  จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด  และหลงยึดสภาพธรรมทั้งหลาย ว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล เป็นเรา ของเรา จึงทำให้เกิดความยินดีพอใจ ติดข้องต้องการ ยึดติดเพิ่มยิ่งขึ้นในลาภ ยศ สรรเสริญ โภคทรัพย์ ชาติตระกูล วรรณะ....ตามความจริงแล้วสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏทางตา  ทางหู  ทางจมูก  ทางลิ้น  ทางกายและทางใจนั้น  เป็นเพียงลักษณะสภาพธรรมแต่ละชนิด  เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยต่าง ๆ กัน

วัตถุสิ่งของต่าง ๆ และเสียง  กลิ่น  รสต่าง ๆ  เย็น  ร้อน  อ่อน แข็ง ไหว ตึง และเรื่องราวต่าง ๆ  นั้น  จะปรากฏให้รู้ได้ ก็ต่อเมื่อมีสภาพธรรมที่เป็น "สภาพรู้"  ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงบัญญัติเรียกสภาพรู้นี้ว่า "จิต"  สภาพรู้หรือจิตนี้ก็ได้แก่  การได้เห็น (จักขุวิญญาณ)....การได้ยิน (โสตวิญญาณ)...  การได้กลิ่น (ฆานวิญญาณ)....การลิ้มรส (ชิวหาวิญญาณ).....การรู้ร้อน  การรู้เย็น  การรู้อ่อน  การรู้แข็ง  การรู้ไหว  การรู้ตึง (กายวิญญาณ)  และการรู้ความนึกคิด (มโนวิญญาณ)

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรมทั้งปวง  พระองค์ทรงแสดงธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้  เพื่ออนุเคราะห์แก่สัตว์โลกทั้งหลาย  นับตั้งแต่สมัยตรัสรู้  ตราบจนถึงปรินิพพานเป็นเวลา ๔๕ พรรษา  ด้วยพระปัญญาธิคุณ  พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ  พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย "สัมปทา" คือ เหตุสัมปทาและผลสัมปทา  แล้วพระองค์ก็ได้ทรงโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ เป็นการถึงพร้อมด้วย "สัตตูปสัมปทา"  การเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องถึงพร้อมด้วยสัมปทาทั้งสาม....การตรัสรู้ธรรม ทำให้พระองค์ทรงหมดกิเลส  และพระองค์ได้ทรงแสดงธรรมที่พระองค์ตรัสรู้  ก็เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้หมดกิเลสด้วย

สำหรับบทความนี้เป็นเพียงย่อ ๆ เท่านั้น  หากมีข้อความใดผิดพลาดประการใด  ผู้เขียนขอกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย  และขออโหสิกรรมจากท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย....ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

                                             
                                               ............................................