ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สวัสดีค่ะ ท่านผู้สนใจในธรรมทุกท่าน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรมทั้งปวง พร้อมทั้งเหตุและผลของธรรมทั้งปวงพระองค์ทรงแสดงธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้ ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ ให้พุทธบริษัทให้รู้ตามพระองค์ ให้ทราบว่าสภาพธรรมทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่เรา.....สภาพธรรมทั้งปวงเป็น "ปรมัตถธรรม" คือเป็นสภาพธรรมที่มีลักษณะเฉพาะแต่ละอย่าง ไม่มีใครสามารถที่จะบังคับบัญชาหรือเปลี่ยนแปลงลักษณะของสภาพธรรมนั้น ๆ ได้ ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ จะเรียกภาษาอะไร หรือไม่เรียกก็ตาม สภาพธรรมนั้น ก็ไม่มีใครที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย....สภาพธรรมทั้งหลายเกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปตามเหตุปัจจัย
ความที่ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด และหลงยึดสภาพธรรมทั้งหลาย ว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล เป็นเรา ของเรา จึงทำให้เกิดความยินดีพอใจ ติดข้องต้องการ ยึดติดเพิ่มยิ่งขึ้นในลาภ ยศ สรรเสริญ โภคทรัพย์ ชาติตระกูล วรรณะ....ตามความจริงแล้วสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายและทางใจนั้น เป็นเพียงลักษณะสภาพธรรมแต่ละชนิด เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยต่าง ๆ กัน
วัตถุสิ่งของต่าง ๆ และเสียง กลิ่น รสต่าง ๆ เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ไหว ตึง และเรื่องราวต่าง ๆ นั้น จะปรากฏให้รู้ได้ ก็ต่อเมื่อมีสภาพธรรมที่เป็น "สภาพรู้" ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงบัญญัติเรียกสภาพรู้นี้ว่า "จิต" สภาพรู้หรือจิตนี้ก็ได้แก่ การได้เห็น (จักขุวิญญาณ)....การได้ยิน (โสตวิญญาณ)... การได้กลิ่น (ฆานวิญญาณ)....การลิ้มรส (ชิวหาวิญญาณ).....การรู้ร้อน การรู้เย็น การรู้อ่อน การรู้แข็ง การรู้ไหว การรู้ตึง (กายวิญญาณ) และการรู้ความนึกคิด (มโนวิญญาณ)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรมทั้งปวง พระองค์ทรงแสดงธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้ เพื่ออนุเคราะห์แก่สัตว์โลกทั้งหลาย นับตั้งแต่สมัยตรัสรู้ ตราบจนถึงปรินิพพานเป็นเวลา ๔๕ พรรษา ด้วยพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย "สัมปทา" คือ เหตุสัมปทาและผลสัมปทา แล้วพระองค์ก็ได้ทรงโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ เป็นการถึงพร้อมด้วย "สัตตูปสัมปทา" การเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องถึงพร้อมด้วยสัมปทาทั้งสาม....การตรัสรู้ธรรม ทำให้พระองค์ทรงหมดกิเลส และพระองค์ได้ทรงแสดงธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ ก็เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้หมดกิเลสด้วย
สำหรับบทความนี้เป็นเพียงย่อ ๆ เท่านั้น หากมีข้อความใดผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย และขออโหสิกรรมจากท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย....ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
............................................