หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทุกอย่างสำคัญที่ใจ






ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สวัสดีค่ะ ท่านผู้ใฝ่ในธรรมทุกท่าน

ทุกอย่างเกิดขึ้นได้จริง ๆ  เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมที่จะให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น ก็จะไม่เป็นอย่างอื่น  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นปรากฏเพียงเล็กน้อยแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีกเลย แล้วก็ไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของ ๆ สิ่งใด ๆ ได้เลย เป็นเพียงความคิดเท่านั้น

ทุกคนมีการเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส การกระทบสัมผัสทางกายเหมือนกันหมด แล้วหลังจากที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัสทางกายแล้วทางใจก็คิด  เป็นกุศลบ้างและอกุศลบ้าง จะทุกข์ใจหรือสุขใจนั้นก็ขึ้นอยู่ที่การสะสมของแต่ละบุคคล  เพราะฉะนั้นจึงสำคัญอยู่ที่ใจ ว่ามีความเข้าใจตามความเป็นจริงของสิ่งที่ปรากฏขณะนี้หรือไม่ ถ้ามีความเข้าใจในความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ก็จะสามารถคลายความหวั่นไหวลงได้บ้าง

ทุกคนมีความเสมอกันก็คือ มีตาและก็สามารถเห็นสิ่งเดียวกัน มีหูเหมือนกัน ซึ่งได้ยินเสียงเดียวกัน ขณะที่ได้เห็นและได้ยินแล้ว สำคัญที่ใจขณะนั้น ถ้าไม่คิดก็ไม่เดือดร้อน คนร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล
แต่ใจเดือดร้อนมาก ทุกข์ก็เพราะใจคิด  ชีวิตดำเนินต่อไปอีกยาวนานแค่ไหนไม่อาจทราบได้ แต่ให้ทราบว่าอะไรจะเกิด ก็ต้องเกิดเพราะเหตุปัจจัย แม้ไม่อยากมีทุกข์ก็เลือกไม่ได้

ความทุกข์จริง ๆ นั้นมิได้อยู่ที่ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ความทุกข์จริง ๆ นั้นอยู่ที่การสะสมของจิต แล้วแต่ว่าขณะนั้นมีปัจจัยที่จะเป็นกุศลหรืออกุศล ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรมะ ความเข้าใจในขณะนั้นว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคัญบัญชาของใคร ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้

ดังนั้นถ้ามีความเข้าใจเพิ่มขึ้นมั่นคงขึ้น จิตก็จะไม่หวั่นไหว ขณะนั้นย่อมจะเป็นสุขมากกว่าคนที่มีความอยากเห็น  อยากได้ อยากมีทรัพย์สมบัติมาก ๆ ใจก็จะต้องหวั่นไหวด้วยความทุกข์


สำหรับบทความนี้ หากมีข้อความใดผิดพลาด ผู้เขียนขอกราบขอขมาแด่พระรัตนตรัย และขออโหสิกรรมจากท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย.....ขออนุโมทนาในกศุลจิตกับทุกท่านด้วยค่ะ