ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สวัสดีค่ะ ท่านผู้ศรัทธาในธรรมทุกท่าน
ชีวิตในแต่ละวันไม่พ้นไปจากโลกทั้ง ๖ จิตแต่ละขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป สืบต่อวนเวียนท่องเที่ยวอยู่ ๖ ทาง ท่องเที่ยวเพราะเหตุว่าจิตไม่ได้เกิดอยู่ที่เดียว จิตก็ไม่ได้รู้อารมณ์เดียวเท่านั้น เมื่อมีปัจจัยที่จะให้จิตเกิด จิตก็เกิดขึ้น เช่น เมื่อมีปัจจัยที่จะให้จิตเห็นเกิดขึ้น จิตเห็นก็เกิดขึ้นเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาแล้วก็ดับไป
เมื่อมีปัจจัยที่จะให้เสียงเกิด จิตได้ยินก็เกิดขึ้นได้ยินเสียง เพราะฉะนั้นสำหรับในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ในกามาวจรภูมิ จิตก็จะวนเวียนไปในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ หมุนไปเรื่อย ๆ นี่ก็เป็นเรื่องของจิตที่รู้อารมณ์ทางทวารทั้ง ๖ ถ้าไม่มีจิตเกิดขึ้นก็ไม่มีอะไรทั้งหมด กิเลสวัฏก็ไม่มี กรรมวัฏก็ไม่มี วิปากวัฏก็ไม่มี แต่เพราะเหตุว่ามีจิตเกิดขึ้น เมื่อจิตเกิดขึ้นแต่ละขณะ ต้องมีอารมณ์ให้จิตรู้ เมื่อจิตเกิดแล้วก็มีกิเลสซึ่งทำให้เกิดกรรม......กรรมก็เป็นเหตุให้เกิดวิบากจิต เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าจิตเกิดดับสืบต่อท่องเที่ยวอยู่ในโลกทั้ง ๖ นี้อย่างไม่ขาดสาย และยังจะสืบต่อไปในภพหน้าชาติหน้าอีกไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่ยังไม่ดับกิเลสเป็นสมุจเฉทประหาร ก็ต้องกลับมาสู่โลกนี่อีก แล้วแต่เหตุปัจจัย
สำหรับบทความนี้หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอกราบขอขมาแด่พระรัตนตรัย และขออโหสิกรรมจากท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย....ขออนุโมทนาในกุศลจิตกับทุกท่านด้วยค่ะ
......................................