หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

พระอริยบุคคล




ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระอริยบุคคลมี ๔ ระดับขั้น แบ่งตามระดับความเบาบางของกิเลสที่ดับ  ที่ละด้วยปัญญาตามระดับความแก่กล้าของอินทรีย์  และความสมบูรณ์ของศีล สมาธิและปัญญาแตกต่างกัน

พระโสดาบัน....ละสักกายทิฏฐิ  ละวิจิกิจฉา  ละสีลัพพตปรามาส  พระโสดาบันยังมีความยินดีพอใจในกามอารมณ์อยู่  ยินดีพอใจในรูป  เสียง  กลิ่น รส  โผฏฐัพพะ แต่พระโสดาบันไม่ล่วงศีลห้า

พระสกทาคามี....ทำความยินดีพอใจในรูป  เสียง  กลิ่น  รส  โผฎฐัพพะ ให้เบาบางลง  ยังละกิเลสคือโทสะหรือปฏิฆะยังไม่ได้  พระสกทาคามีมีศีล ๘ เป็นปรกติเสมอในเพศคฤหัสถ์  มีศีลสมบูรณ์ แต่ยังไม่สมบูรณ์ด้วยสมาธิและปัญญา

พระอคานามี....ละกามราคะ และปฏิฆะได้  สมบูรณ์ด้วยศีลและสมาธิ  แต่ยังไม่สมบูรณ์ด้วยปัญญา

พระอรหันต์.....ละสังโยชน์ได้ทั้งหมด ละมานะและละอวิชชาได้ทั้งสิ้น หมดกิจในพระพุทธศาสนา

การที่จะทราบได้ว่าบุคคลใดเป็นพระอริยบุคคล  ก็จะต้องเข้าใจหนทางปฏิบัติ เพื่อตวามเป็นพระอริยบุคคลเสียก่อน  และจะต้องเป็นผู้มีปัญญา ที่เสมอหรือมีปัญญาเหนือกว่าบุคคลนั้น  จึงจะสามารถรู้ได้  ต้องมีความเห็นถูกและตรงตามความเป็นจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้  ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะดับกิเลสได้

เพราะฉะนั้น จึงต้องมีการฟังธรรม  ศึกษาธรรม  พิจารณาไตร่ตรองสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง แล้วน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน  อบรมเจริญสติปัฏฐาน จนกว่าปัญญาจะแก่กล้า สามารถประหารกิเลสตามลำดับขั้น  บรรลุมรรคผลเป็นพระอริยบุคคล  ก็จะสามารถรู้ได้ด้วยปัญญา ว่าบุคคลใดเป็นพระอริยบุคคล


                                                      ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์

                                                               ..................................